Grand Seiko Elegance Collection SBGW283
หน้าปัดสีฟ้าที่สะท้อนถึง
ความเรียบง่ายอันงดงาม

Grand Seiko Elegance Collection SBGW283
หน้าปัดสีฟ้าที่สะท้อนถึงความเรียบง่ายอันงดงาม

เมื่อได้สัมผัสกับเรือนเวลาเครื่องไขลานรุ่นใหม่ SBGW283 จากคอลเลกชั่น เอเลแกนซ์ ก็เกิดความรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างว่าเพราะอะไร ทาง Grand Seiko จึงออกนาฬิกาตัวเรือนขนาดย่อม 37.3 มิลลิเมตร หนา 11.7 มิลลิเมตร มาสู่ตลาดยุคปัจจุบันกันอยู่อีก เพราะอันที่จริงขนาดมาตรฐานของนาฬิกาแนวเดรสคลาสสิกในตลาดโดยส่วนใหญ่ก็มักจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 38 มิลลิเมตร ขึ้นไปกันแทบทั้งนั้น ไซส์ 37.3 นี่มันเกือบจะเข้าขั้นนาฬิกาวินเทจกันแล้ว แต่รูปลักษณ์ที่ได้เห็นก็ไม่ได้ออกแนววินเทจขนาดนั้นหากดูเป็นแนวคลาสสิกร่วมสมัยเสียมากกว่าด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่มีรายละเอียดและให้สีสันมาได้น่าสนใจดีทีเดียว

ลองสืบค้นกลับไปสักนิดก็พบว่า ตัวเรือนเดียวกันนี้เคยถูกใช้มาก่อนแล้วกับรุ่น SBGW231 ซึ่งเป็นเรือนเวลาในคอลเลกชั่น เอเลแกนซ์ เช่นเดียวกัน ทว่ารุ่นนั้นมากับหน้าปัดสีขาวซีดเย็นยะเยือกจากธีม “Sekki” (เซกกิ) อันเป็นการแบ่งฤดูกาลอันละเอียดอ่อนของชาวญี่ปุ่นโดยเป็นตัวแทนของ ‘Kanro’ (คันโร) ฤดูที่อยู่ในช่วงต้นเดือนตุลาคมอันเป็นขณะเวลาที่ข้าวพร้อมจะถูกเก็บเกี่ยวก่อนที่อากาศจะหนาวเย็น โดยช่วงเช้าในขณะเวลานั้นจะปกคลุมพืชพันธุ์ด้วยน้ำค้างท่ามกลางหมอกจาง ๆ เหนือทุ่งนา ซึ่งสีขาวเย็นยะเยือกของหน้าปัดก็สื่อถึงแสงทอผ่านหมอกยามเช้านั่นเอง

ทว่า SBGW283 ที่ออกมาใหม่ก็ใช้ธีมฤดูกาลด้วยเช่นกันแต่เป็นฤดูที่เรียกว่า ‘Kishun’ (คิชุน) ซึ่งเป็นขณะเวลาที่ฤดูร้อนเริ่มต้นขึ้น และสีฟ้าอ่อน ๆ ที่ปรากฏบนหน้าปัดก็สื่อถึงสีของฟากฟ้าเหนือภูเขาอิวาเตะที่สูงเสียดฟ้าถึง 2,000 เมตร ณ ขณะเวลานี้ และที่ต้องเป็นฟากฟ้าเหนือภูเขาอิวาเตะก็เป็นเพราะเป็นอาณาบริเวณแห่งที่ตั้งของสตูดิโอ ชิสุกุอิชิ อันเป็นสถานที่ผลิตเรือนเวลาจักรกล Grand Seiko นั่นเอง และก็เป็นธรรมเนียมของ Grand Seiko ไปแล้ว ที่จะนำอิทธิพลและแรงบันดาลใจจากธรรมชาติแวดล้อมแหล่งผลิตมาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่งผลงานของพวกเขา

เมื่อมองผ่านกระจกแซพไฟร์คริสตัลทรงกล่องสไตล์วินเทจเข้าไปก็จะมองเห็นลายเนื้อที่ไม่เหมือนใครราวเกิดขึ้นจากธรรมชาติบนผิวหน้าปัดสีฟ้าอ่อนละมุนชวนสดชื่นได้อย่างชัดเจนเพราะมีการเคลือบสารกันการเกิดแสงสะท้อนบนฝั่งด้านในของกระจกหน้าปัดมาให้ด้วย ขณะที่สีเงินของหลักชั่วโมงทั้งสิบสองและเข็มทั้งสามก็ทำให้อ่านค่าเวลาที่ชัดเจนในทุกหลักนาทีและวินาทีด้วยสเกลที่ประทับพิมพ์สีดำกับปลายเข็มนาทีกับเข็มวินาทีอันเรียวแหลมที่ยาวและดัดโค้งตามแนวโค้งของกระจกไปจนถึงขีดสเกล รวมกันเป็นความเรียบง่ายที่น่าหลงใหลอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อนบนเรือนเวลาของผู้ผลิตรายใด ทั้งยังสร้างความรู้สึกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นทุกครั้งที่ได้มอง และด้วยการเจียรเหลี่ยมกับรูปแบบการขัดแต่งของเข็มและหลักชั่วโมงก็ทำให้ดูเวลาได้อย่างชัดเจนแม้ในสภาวะที่แสงตกกระทบเบาบางเพราะสะท้อนแสงได้จากทุกมุม

ลองมาคาดข้อมือดูก็จะพบว่าตัวเรือนสเตนเลสสตีลทรงกลมสไตล์เดรสคลาสสิกมีแนวขาตัวเรือนยาวที่ดูโค้งละมุนพร้อมแนวปาดแบบอสมมาตรโดยมีระยะความยาวจากขาตัวเรือนด้านบนสู่ด้านล่างอยู่ที่ 44.3 มิลลิเมตรนั้นวางทาบแนบบนข้อมือได้อย่างพอดีจนรู้สึกได้เลยว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนที่ 37.3 มิลลิเมตร มิได้ดูเล็กจนขัดเขิน แต่กลับให้ความเรียบหรูดูคลาสสิกและสง่างามอย่างน่าสนใจ ทั้งนี้ต้องยกความดีให้กับความหนารวม 11.7 มิลลิเมตร ที่เกิดจากความสูงของกระจกทรงกล่อง และการขัดผิวเงาดุจกระจกด้วยเทคนิคซารัตสึอันเลื่องชื่อของ Grand Seiko ที่สร้างภาพสะท้อนอย่างไร้การบิดเบือนมอบความแวววาว และเม็ดมะยมที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และหนาเมื่อเทียบกับขนาดของนาฬิกา สิ่งเหล่านี้คือ คำอธิบายที่ดีที่สุดถึงปรัชญา “ประกายแห่งคุณภาพ” อันเป็นสิ่งที่เหล่านักออกแบบ Grand Seiko มุ่งเน้นมาตั้งแต่ยุค 60s และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ สายหนังจระเข้คุณภาพสูงสีน้ำเงินเข้มเส้นงามที่เลือกใช้เป็นลายตารางใหญ่ซึ่งดูคลาสสิกเป็นยิ่งนักโดยรัดข้อมือด้วยหัวเข็มขัดสเตนเลสสตีล

การบอกเวลาแบบ 3 เข็มสุดเรียบง่ายนี้ให้อัตราความแม่นยำอยู่ในช่วง -3 ถึง +5 วินาทีต่อวันซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมมาก นี่คือผลจากการทำงานของกลไกขึ้นลานด้วยมือ จำนวนทับทิมรวม 24 ชิ้น คาลิเบอร์ 9S64 ที่นอกจากจะเด่นด้วยขนาดตัวเครื่องที่บางเฉียบแล้ว ยังมอบพลังงานสำรองได้นานถึง 72 ชั่วโมงหรือเท่ากับ 3 วันเลยทีเดียว และมากับฟังก์ชั่นหยุดเข็มวินาทีในขณะตั้งเวลาเพื่อให้เทียบเวลาได้ถึงระดับวินาที ส่วนการตกแต่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็กระทำอย่างพิถีพิถันตามมาตรฐานระดับสูงของ Grand Seiko เช่นเดียวกับการประกอบและการปรับตั้งที่กระทำการด้วยมือของช่างผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเมื่อพลิกมาทางด้านหลังก็สามารถชื่นชมความงามของการตกแต่งได้ผ่านกระจกใสที่กรุอยู่กับฝาหลัง

ด้วยดีไซน์ ฟังก์ชั่นกลไก ตลอดจนรูปแบบการตกแต่งกลไกของ SBGW283 รุ่นนี้ ต้องยอมรับเลยว่า นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีที่สุดของความงดงามแห่งความเรียบง่ายตามแบบฉบับของ Grand Seiko โดยแท้

Grand Seiko Elegance Collection
SBGW283
185,800 บาท

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ต่อ
    Current :
  • TH
  • EN