Grand Seiko Elegance Collection SBGW285
แสงและเงาแห่งสีเขียวอันล้ำลึก

Grand Seiko Elegance Collection SBGW285
แสงและเงาแห่งสีเขียวอันล้ำลึก

เมื่อเรือนเวลากลไกไขลาน คือ ต้นกำเนิดของ Grand Seiko เมื่อปี 1960 จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ทางแบรนด์ยังคงสืบสานตำนานแห่งจุดเริ่มต้นด้วยการนำเสนอทายาทของเรือนเวลาชนิดนี้ให้คงอยู่ในคอลเลกชั่นปัจจุบัน โดยหลังจากที่เคยสร้างรุ่นรี-ครีเอชั่นที่นำรูปแบบดีไซน์ของรุ่นต้นฉบับมาสร้างขึ้นใหม่เมื่อ ค.ศ.2020 ในวาระฉลองอายุปีที่ 60 แห่งการถือกำเนิดโดยขยายสัดส่วนของตัวเรือนจากเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 มิลลิเมตรขึ้นมาเป็น 38 มิลลิเมตรเพื่อให้เหมาะกับยุคปัจจุบันยิ่งขึ้น แต่ยังคงความบางของตัวเรือนอันเป็นที่สถิตของกลไกจักรกลเครื่องบางเอาไว้โดยวัดความหนาของตัวเรือนได้เพียง 10.9 มิลลิเมตรเท่านั้น มาถึงปีนี้ ทางแบรนด์ก็ได้ออกเรือนเวลาไขลานรุ่นใหม่ออกมาแล้วซึ่งรุ่น SBGW285 ก็คือ หนึ่งในนั้นโดยจัดอยู่ในคอลเลกชั่น เอเลแกนซ์ เช่นเดียวกับรุ่นรีเมค 60 ปี แต่มากับตัวเรือนดีไซน์คลาสสิกที่ดูร่วมสมัยยิ่งขึ้น หากมีขนาดย่อมลงไปกว่าอีกนิด คือ 37.3 มิลลิเมตร แต่หนาขึ้นอีกหน่อยเป็น 11.7 มิลลิเมตร

ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ค่อนข้างเล็กกับความหนาที่สมส่วนตามมิตินี้อาจดูเล็กไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับเรือนเวลาเดรสในยุคปัจจุบัน แต่เมื่อพินิจจากความยาวจากปลายขาตัวเรือนจรดปลายขาตัวเรือนได้ 44.3 มิลลิเมตร แล้วก็ทำให้วางแนบบนข้อมือได้อย่างสมดุลพร้อมเสริมความเด่นด้วยเม็ดมะยมที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และหนาเมื่อเทียบกับขนาดของตัวเรือน ร่วมกับมอบอารมณ์วินเทจอย่างพอดี ๆ ไม่มากไม่น้อยจนเกิดไปทั้งยังมอบความวาววับดุจกระจกเงาด้วยผิวขัดเงาจากเทคนิคซารัตสึตามแบบฉบับของ Grand Seiko บวกกับผิวเงาของสายจระเข้สีเขียวเข้มโทนเดียวกับสีของหน้าปัดและสอดคล้องกับผิวเงาวาวของหลักชั่วโมงและเข็ม

หน้าปัดซึ่งมาในโทนสีเขียวเข้มเช่นเดียวกับสีของสายหนังจระเข้นี้มีแรงบันดาลใจแห่งสีสันมาจากบรรยากาศของการเปลี่ยนผ่านจากฤดูร้อนสู่ฤดูใบไม้ร่วงของป่าอันเงียบสงบในท้องถิ่นชิสุกุอิชิ ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น อันเป็นสถานที่ตั้งแห่งแหล่งผลิตเรือนเวลาจักรกลของ Grand Seiko โดยเป็นสีเขียวของใบไม้ที่ทวีความเข้มขึ้นเรื่อย ๆ บนพื้นผิวที่ตกแต่งด้วยลายคล้ายเส้นใยธรรมชาติร่วมกันถ่ายทอดแสงและเงาที่น่าประทับใจยิ่งเมื่อต้องแสงโดยความเข้มข้นของสีจะแปรเปลี่ยนไปตามปริมาณแสงและมุมที่แสงตกกระทบผ่านกระจกหน้าปัดแซพไฟร์คริสตัลทรงกล่องเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ทั้งยังทำให้เห็นการเคลื่อนของเข็มวินาทีเล่มเรียวดัดปลายโค้งตามแนวกระจกได้อย่างชัดเจนเป็นที่สุด ซึ่งการเล่นกับแสงและเงานี้ คือ หนึ่งในลักษณะเฉพาะตัวแห่งความงดงามของเรือนเวลา Grand Seiko ที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลงใหลได้ปลื้มมานานแสนนานแล้ว

สำหรับแหล่งพลังงานที่มอบชีวิตให้กับเรือนเวลารุ่นนี้ก็คือ เครื่องขึ้นลานด้วยมือ ทับทิม 24 ชิ้น คาลิเบอร์ 9S64 ซึ่งเป็นกลไกบอกเวลาแบบ 3 เข็ม ขนาดตัวเครื่องบางเฉียบที่ได้รับการตกแต่งมาอย่างเรียบง่ายแต่พิถีพิถันในทุกอณูจากการตกแต่ง ประกอบ และปรับตั้งด้วยมือ ซึ่งเปิดโอกาสให้ชื่นชมได้อย่างเต็มตาผ่านฝาหลังชนิดกรุกระจกแซพไฟร์ จุดเด่นของกลไกคาลิเบอร์นี้ก็คือ ใช้สายใยลานที่มีขนาดยาวเป็นพิเศษเพื่อให้สำรองพลังงานได้นานถึง 72 ชั่วโมง และให้อัตราความแม่นยำโดยเฉลี่ยที่ระดับ -3 ถึง +5 วินาทีต่อวัน ทั้งยังมากับฟังก์ชั่นหยุดเข็มวินาทีขณะตั้งเวลาเพื่อให้ตั้งค่าเวลาได้จนถึงระดับวินาที ซึ่งก็เป็นคาลิเบอร์เดียวกับที่ใช้อยู่ในรุ่นรี-ครีเอชั่น ฉลอง 60 ปีของเรือนเวลารุ่นบุกเบิกแห่ง Grand Seiko นั่นเอง

มิติความลึกของแสงและเงาบวกกับสีเขียวเข้มและลายผิวบนหน้าปัด คือ ความเรียบง่ายที่ถ่ายทอดความงดงามได้อย่างไม่เหมือนใคร ซึ่งหากจะว่ากันจริง ๆ แล้วก็ยังไม่มีแบรนด์ใดมอบความละเอียดอ่อนและถ่ายทอดอารมณ์ดุจธรรมชาติจัดสรรได้เสมอเหมือนกับ Grand Seiko และนี่ก็คือ เสน่ห์แบบเฉพาะตัวของแบรนด์นาฬิการะดับสูงจากญี่ปุ่นแบรนด์นี้ ทั้งยังเลือกสีและลายผิวของหนังจระเข้ให้เข้ากับหน้าปัดได้อย่างที่ไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

Grand Seiko Elegance Collection
SBGW285
185,800 บาท

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ต่อ
    Current :
  • TH
  • EN