ทางเลือกสายนาฬิกาสำหรับ 3 เรือนเด่น
SLGH005 & SLGA009 (WHITE BIRCH) SBGA211 (SNOW FLAKE)
BY GRAND SEIKO
30th Sep 2022
ทางเลือกสายนาฬิกาสำหรับ
3 เรือนเด่น SLGH005 & SLGA009 (White Birch) SBGA211 (Snowflake)
BY GRAND SEIKO
30th Sep 2022
เรือนเวลา Grand Seiko ที่มาพร้อมกับสายโลหะนั้นเป็นรูปลักษณ์ที่ดูสง่างามน่าเกรงขามแต่นาฬิกาเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกไปได้เพียงแค่สลับเปลี่ยนมาใช้รูปแบบสายนาฬิกาที่ต่างออกไป เพื่อให้เห็นภาพเราจึงนำนาฬิกาหน้าปัดโทนสีขาวสว่างที่มีพื้นผิวงดงามในรูปแบบเฉพาะตัวของ Grand Seiko มาลองกับรูปแบบสายต่างๆ
Evolution 9 Collection Hi-Beat 36000 80 Hours SLGH005
คู่กับสายหนังสีน้ำเงินกรมท่า รหัส GSG2120J 22mm
Evolution 9 Collection
Hi-Beat 36000 80 Hours SLGH005
กับสายหนังสีน้ำเงินกรมท่า
รหัส GSG2120J 22mm
Evolution 9 Collection Spring Drive 5 Days SLGA009
คู่กับสายหนังสีน้ำเงินกรมท่า รหัส GSG2120J 22mm
Evolution 9 Collection
Spring Drive 5 Days SLGA009
คู่กับสายหนังสีน้ำเงินกรมท่า
รหัส GSG2120J 22mm
ทั้งรุ่น SLGH005 และรุ่น SLGA009 นาฬิกาตัวเรือนสเตนเลสสตีล 2 รุ่นเด่นจากคอลเลกชั่น Evolution 9 (เอโวลูชัน ไนน์) ซึ่งนำมาจากลักษณะของป่าเบิร์ช ต้นไม้ลำต้นสีขาว ที่อยู่ในอาณาบริเวณใกล้เคียงกับสตูดิโอชิสุกุอิชิอันเป็นแหล่งผลิตนาฬิกาจักรกลของ Grand Seiko และสตูดิโอชินชู อันเป็นแหล่งผลิตนาฬิกากลไก สปริง ไดรฟ์ ของ Grand Seiko
Heritage Collection Spring Drive 3 Days SBGA211
คู่กับสายไนลอนสีดำ รหัส GSG2118J
Heritage Collection
Spring Drive 3 Days SBGA211
คู่กับสายไนลอนสีดำ รหัส GSG2118J
รุ่น SBGA211 นาฬิกาตัวเรือนไทเทเนียมจากคอลเลกชั่น Heritage (เฮอริเทจ) ที่นำเอาลักษณะผิวหิมะที่ปกคลุมภูเขาโฮตากะ ที่รายรอบสตูดิโอชินชู มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างลายผิวบนหน้าปัดสีขาว
และสายนาฬิกาที่เราจะนำมาสลับเปลี่ยนอารมณ์จากสายโลหะอันงามสง่าของทั้ง 3 รุ่นนั้น มีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ สายหนังสีน้ำเงินกรมท่าผิวเรียบ สำหรับรุ่น SLGH005 กับรุ่น SLGA009 และสายไนลอนสีดำ สำหรับรุ่น SBGA211 ซึ่งเป็นสายที่ดูลงตัวกับนาฬิกาเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง
สายหนังสีน้ำเงินกรมท่าผิวเรียบ 22 มิลลิเมตร
เริ่มต้นกันกับเรือน White Birch SLGH005 นาฬิกาตัวเรือนสเตนเลสสตีล กลไกอัตโนมัติ ไฮ-บีท กำลังสำรอง 80 ชั่วโมง หน้าปัดเบิร์ชสีขาว จากคอลเลกชั่น Evolution 9 กันก่อน ตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 40.0 มิลลิเมตร ที่เด่นด้วยความเพรียวบางเพียง 11.7 มิลลิเมตร ของรุ่นนี้มีขนาดความกว้างของขาสายอยู่ที่ 22 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างกว้างเมื่อเทียบกับความกว้างของตัวเรือน ทั้งนี้ก็เพราะเป็นการออกแบบให้มีสัดส่วนสายที่กว้างเพื่อสร้างความกระชับแนบแน่นและมั่นคงกับข้อมือ
ซึ่งเมื่อติดตั้งสายหนังสีน้ำเงินกรมท่าผิวเรียบเย็บตะเข็บอย่างประณีตด้วยด้ายสีน้ำเงินเฉดเดียวกับสายทั้งบนตัวสายและห่วงรัดสายที่มีมาให้ 2 ชิ้นแล้ว จะเห็นว่าสีน้ำเงินเข้มโทนที่ไม่มืดนักของสายเส้นนี้ช่างขับเน้นเพิ่มความโดดเด่นให้กับสีเงินขาวกระจ่างของผิวลายไม้เปี่ยมมิติได้เป็นอย่างดี เหมือนกับว่าเทจุดสนใจไปที่หน้าปัดของนาฬิกา ขณะที่สีผิวหนังของสายก็สอดคล้องต้องกับเข็มวินาทีสีน้ำเงินอย่างลงตัวโดยสมบูรณ์แบบ ทั้งยังทำให้บุคลิกของนาฬิกาดูลำลองและลดความจริงจังลงไปได้ไม่น้อยแต่ก็ยังคงความงามสง่าเอาไว้ได้ในภาพรวม
ภาพลักษณ์ของสายสีน้ำเงินกรมท่าผิวเรียบเส้นนี้ ถูกย้ำความงดงามในรูปแบบไม่ต่างกับที่จับคู่กับรุ่น SLGH005 เพราะเมื่อนำมาติดตั้งเข้ากับตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาดตัวพอ ๆ กันของรุ่น SLGA009 ซึ่งมีความกว้าง 40.0 มิลลิเมตร และหนา 11.8 มิลลิเมตร ก็ช่วยขับเน้นหน้าปัดเบิร์ชสีขาวพร้อมเข็มวินาทีสีน้ำเงิน ของนาฬิกา สปริง ไดรฟ์ พลังงานสำรอง 5 วัน จากคอลเลกชั่น Evolution 9 รุ่นนี้ได้อย่างเต็มที่ด้วยมาดงามสง่าแต่แฝงไว้ซึ่งความลำลองเหมาะกับวันสบาย ๆ เช่นเดียวกัน
สายไนลอนสีดำ 20 มิลลิเมตร
มาถึงผิวลายหิมะที่ปกคลุมภูเขาโฮตากะที่จำแลงสู่หน้าปัดของนาฬิกาตัวเรือนไทเทเนียม กลไก สปริง ไดรฟ์ พลังงานสำรอง 3 วัน จากคอลเลกชั่น Heritage รุ่น SBGA211 ในตัวเรือนขนาด 41.0 มิลลิเมตร หนา 12.5 มิลลิเมตร กันบ้าง ระยะขาสายของรุ่นนี้มีความกว้างอยู่ที่ 20 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่อสลัดสายไทเทเนียมที่ติดตั้งมากับนาฬิกาออกไปแล้วเปลี่ยนมาเป็นสายไนลอนสีดำเส้นนี้ ก็รู้สึกได้ทันทีถึงความสปอร์ตที่เพิ่มขึ้นมาในบัดดล ทั้งในแง่รูปลักษณ์ของโทนสีเทาจากวัสดุไทเทเนียมของตัวเรือน และโทนสีดำของสายไนลอน ที่เป็นความสง่าแต่ดูทะมัดทะแมง และน้ำหนักที่แสนเบาของตัวเรือนไทเทเนียมกับสายไนลอนที่ทำให้สวมใส่ได้สบายข้อมือยิ่งนัก นอกจากนี้ก็ยังขับเน้นความขาวสว่างบนผิวลายสวยดุจปกคลุมไปด้วยหิมะให้โดดเด่นกว่าที่เคย
เสน่ห์อีกประการที่ได้จากสายเส้นนี้ก็คือ ห่วงรัดสาย 2 ชิ้นที่และแผ่นหนังบริเวณรูเข็มขัดที่เป็นหนังสีน้ำเงินเดินตะเข็บเย็บด้วยด้ายสีดำเส้นใหญ่ซึ่งช่างดูเข้ากับสีน้ำเงินของเข็มวินาทีบนหน้าปัดเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งแผ่นหนังบริเวณรูเข็มก็ช่วยให้สายไนลอนสีดำเช่นนี้ดูดีมีราคาสมกับเป็นสายนาฬิกาแท้จาก Grand Seiko และยังทำให้รูที่เจาะบนวัสดุไนลอนดูประณีตเรียบร้อยยิ่งขึ้น
ส่วนประกอบหนึ่งของสายทั้ง 2 แบบที่ไม่อาจข้ามไปโดยไม่พูดถึงได้ คือ ตัวล็อกชนิดหัวเข็มขัดที่มาในรูปทรงและการตกแต่งที่สวยงามซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ Grand Seiko ในการผลิตสายออกมาจำหน่ายได้เป็นอย่างดี หัวเข็มขัดนี้มีขนาดใหญ่ดูแข็งแรงมั่นคง โดยส่วนปลายเป็นแถบกว้างที่มีแนวโค้งอย่างนุ่มนวลอยู่ทุกด้านและสลักด้วยตรา ‘GS’ อย่างประณีต ทั้งยังปัดลายผิวทางด้านบนมาในแบบเส้นละเอียดดุจลายแฮร์ไลน์ที่ปรากฏบนตัวเรือน ขณะที่บริเวณส่วนริมทำเป็นลักษณะปาดเอียงผิวขัดเงาสะท้อนลักษณะของผิวขัดเงาด้วยเทคนิคซารัตสึของตัวเรือนไปบรรจบกับแนวสันทางด้านข้างซึ่งทำให้ดูนุ่มนวลและเข้มแข็งอยู่ในที ทั้งยังมีส่วนเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคุณภาพของสายนาฬิกาแท้จาก Grand Seiko ได้มากเลยทีเดียว
