ศิลปกรรมแห่ง Grand Seiko

ผิวสัมผัสแบบญี่ปุ่น

ความงามละเมียดตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่น เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ปรากฎให้เห็นอยู่บนผิววัสดุของนาฬิกา Grand Seiko เพราะงานหัตถศิลป์นั้นเป็นคุณค่าที่อยู่ในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นมาแต่โบราณ และเป็นคุณค่าที่นานาชาติต่างให้การชื่นชมและยอมรับ

ผิวฝังมุกของเครื่องใช้หรือเครื่องประดับที่เป็นการตัดเปลือกส่วนด้านในของเปลือกหอยมุกมาแทรกไว้ในผิวเคลือบแล็กเกอร์หรือผิวไม้ เป็นงานหัตถศิลป์ที่แพร่จากประเทศจีนเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยนารา จากนั้นช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นได้ทำการพัฒนาเทคนิคจนมาถึงสมัยโมโมยามะซึ่งเป็นยุคที่มีการติดต่อค้าขายกับยุโรปมากขึ้น

งานหัตถศิลป์เปลือกหอยมุก

เหลือบรุ้งอันงดงามของเปลือกหอยมุกที่ผสานอยู่ในชิ้นงานของชาวญี่ปุ่นจึงกลายเป็นหนึ่งในตัวแทนความงดงามแห่งงานหัตถศิลป์ญี่ปุ่นที่ชาวยุโรปรับรู้ ที่การพัฒนาชิ้นงานประดับเปลือกหอยมุกมีการพัฒนาไปอย่างมากมายในประเทศญี่ปุ่นนั้น สาเหตุหนึ่งอาจมาจากการที่ญี่ปุ่นมีเปลือกหอยมุกอยู่มากมายเพราะทะเลบริเวณเกาะญี่ปุ่นนั้นมีบรรดาสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเนื่องมาจากมีกระแสน้ำ คุโรชิโอะ หรือที่เรียกกันว่า แบล็ค สตรีม ซึ่งนำน้ำอุ่นในแถบเส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิกขึ้นสู่ทางเหนือ และอีกหลายกระแสน้ำในมหาสมุทร ไหลผ่านและเกิดการบรรจบกัน นำพามาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในท้องทะเล

ไทเทเนียมในดีไซน์ Evolution 9
รุ่น SLGA015

กระแสน้ำ คุโรชิโอะ นี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสร้างสรรค์ลายผิวและสีของหน้าปัดนาฬิกาสำหรับการดำน้ำ Grand Seiko ตัวเรือนไทเทเนียมความเข้มข้นสูงในดีไซน์ Evolution 9 (เอโวลูชัน ไนน์) รุ่น SLGA015 ริ้วระลอกคลื่นอันแปลกตาไม่เหมือนใครที่ดูราวกับเคลื่อนไหวได้บนผิวหน้าปัดสีดำของนาฬิการุ่นนี้ถูกบรรจงสร้างขึ้นอย่างแม่นยำด้วยริ้วลายที่แข็งแกร่งและละเอียดอ่อน สร้างความชัดเจนของลวดลายให้เกิดขึ้นบนหน้าปัดสีดำได้อย่างน่าอัศจรรย์ อีกทั้งแสงสีเขียวอันเจิดจ้าของสารเรืองแสง ลูมิไบรท์ เอกสิทธิ์ของทางแบรนด์ ที่เคลือบมาอย่างเต็มที่บนหลักชั่วโมงและเข็ม ยังชวนให้นึกถึงภาพพรายน้ำที่เรืองสว่างอยู่ในท้องทะเลลึกอีกด้วย

    Current :
  • TH
  • EN