จากพื้นฐานของกลไกไฮ-บีท คาลิเบอร์ 9SA5 กลไก Tentagraph ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ในการจับเวลาที่ล่วงผ่านไปขึ้นมา
จากพื้นฐานของกลไกไฮ-บีท คาลิเบอร์ 9SA5 กลไก Tentagraph ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ในการจับเวลาที่ล่วงผ่านไปขึ้นมา

ที่งานแสดงนาฬิกา วอทเชส แอนด์ วันเดอร์ส เจนีวา เมื่อปีที่ผ่านมา Grand Seiko ได้เปิดตัวนาฬิกาจักรกลระดับความซับซ้อนสูงแบบแรก และซีรีส์นาฬิกาสปอร์ตจากคอลเลกชั่น Evolution 9 (เอโวลูชั่น ไนน์) และวันนี้ เหตุการณ์สำคัญครั้งใหม่ก็ได้อุบัติขึ้น เมื่อ Grand Seiko เพิ่มเติมรูปแบบใหม่ให้กับนาฬิกาสปอร์ต Evolution 9 ด้วยการนำเสนอกลไกโครโนกราฟจับเวลาชนิดจักรกลแบบแรก ซึ่งให้ชื่อว่า Tentagraph (เทนทากราฟ)

การแสวงหาความแม่นยำ คือ หัวใจของนาฬิกาใหม่ Tentagraph เช่นเดียวกับทุกการสร้างสรรค์ของ Grand Seiko กลไกโครโนกราฟจับเวลาคาลิเบอร์นี้ ใช้กลไกไฮ-บีท ระดับปฏิวัติวงการ คาลิเบอร์ 9SA5 เป็นพื้นฐานในการพัฒนา กลไก Tentagraph คาลิเบอร์ 9SC5 ทำงานที่ความถี่ 10 ครั้งต่อวินาที เช่นเดียวกับคาลิเบอร์ 9SA5 จึงมั่นใจในความแม่นยำระดับสูงเมื่อทำการจับเวลาที่ล่วงผ่านไปได้เช่นเดียวกันกับการแสดงเวลาของวัน และด้วยการใช้เอสเคปเมนต์ที่ประหยัดพลังงานและการใช้ตลับลาน 2 ชุด นาฬิกาจึงทำงานได้นานถึง 3 วัน แม้ในขณะที่กลไกจับเวลาทำงานอยู่ ทำให้ Tentagraph เป็นกลไกโครโนกราฟ ความถี่ 10-บีท ที่มีพลังงาน สำรองยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมนาฬิกา ณ ขณะนี้* นอกจากนี้ Tentagraph ยังต้องผ่านขั้นตอนการ ทดสอบแบบใหม่ที่ใช้เวลายาวนานขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ความแม่นยำของเวลาในแต่ละวันของ Tentagraph จะถูกประเมินใน 6 ตำแหน่ง และที่ 3 ระดับอุณหภูมิ เป็นเวลา 17 วัน เช่นเดียวกับกลไกจักรกลของ Grand Seiko ทุกเครื่อง แต่จะมีการทดสอบเพิ่มอีก 3 วันซึ่งในระหว่างนี้ ความแม่นยำจะถูกประเมินใน 3 ตำแหน่งในขณะที่ กลไกจับเวลากำลังทำงานอยู่ จึงทำให้โดยรวมแล้ว กลไก Tentagraph แต่ละเครื่องจะถูกทดสอบเป็นเวลา 20 วัน เพื่อให้แน่ใจว่า เป็นไปตามมาตรฐานความแม่นยำของ แกรนด์ ไซโก สแตนดาร์ดที่ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน

กล่าวได้ว่า กลไก Tentagraph ใหม่ เป็นการเพิ่มมิติใหม่ให้กับกลุ่มนาฬิกาสปอร์ตของ Grand Seiko ทั้งยังเป็นการ เปิดฉากประวัติศาสตร์บทใหม่ของ Grand Seiko อีกด้วย *ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2023 บนพื้นฐานการศึกษาของ Grand Seiko

ชื่อ Tentagraph บ่งบอกถึงอัตราความถี่ระดับสูง พลังงานสำรองที่ยาวนาน และฟังก์ชั่นจับเวลาของกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ

การผสมผสานของเทคโนโลยีการประดิษฐ์นาฬิกาจักรกลที่ดีที่สุดของ Grand Seiko

สามารถมองเห็นการตกแต่งอันสวยงามของกลไกได้จากฝาหลังแบบกรุกระจกใส

กลไกคาลิเบอร์ใหม่มีคุณลักษณะของระบบปล่อยจักรแบบ ดูอัล อิมพัลซ์ เอสเคปเมนต์ อันเป็นระบบกลไก ระดับปฏิวัติวงการ ซึ่งส่งผ่านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพไปยังจักรกลอกแบบ ฟรี-สปรัง โดยทางอ้อม ผ่าน พัลเลท ฟอร์ก และยังคงส่งผ่านโดยตรงจากจักรเอสเคปด้วย และเทคโนโลยี MEMS (เมมส์) ก็ช่วยให้มั่นใจว่า ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของระบบปล่อยจักร มีความถูกต้องแม่นยำระดับสูงในเรื่องของรูปทรงและขนาด มีน้ำหนักที่เบา และความมี ทนทานสูง และยังช่วยให้ระบบปล่อยจักรใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังงานสำรองที่ยาวนาน.

จุดเด่นของกลไกโครโนกราฟจับเวลาสมัยใหม่ที่มีคุณภาพสูงก็คือ การใช้คลัตช์แนวตั้งและระบบคอลัมน์วีล ที่ช่วย ให้มั่นใจในเรื่องความแม่นยำและความสามารถในการทำงานได้ในระดับสูง คลัตช์แนวตั้งจะขจัดอาการสั่นหรือกระตุก ของเข็มนาฬิกาเมื่อกลไกจับเวลา เริ่มทำงานและเพิ่มความแม่นยำในการจับเวลา ในขณะที่คอลัมน์วีล จะช่วยให้ควบคุมการ ทำงานของกลไกจับเวลาได้อย่างแม่นยำ กลไกจับเวลานี้มีค้อนแบบ 3 แฉก ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่า เมื่อกดปุ่มรีเซ็ตแล้ว เข็มจะกลับไปสู่ตำแหน่งศูนย์ในทันทีและเป็นการทำงานที่ประสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ

นาฬิกาสปอร์ต Evolution 9 ที่ตรงตามอุดมคติแห่ง Grand Seiko

การตกแต่งผิวแบบกระจกเงาที่ไร้การบิดเบือนของภาพสะท้อน ด้วยการขัดเงาแบบซารัตสึ
กลไกจับเวลามีหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา หน้าปัดจับเวลา 30 นาทีที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และหน้าปัด จับเวลา 12 ชั่วโมงที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา

อุดมคติแห่งนาฬิกาสปอร์ตของ Grand Seiko ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่นี้ เข็มที่ดูทรงพลังและหลักชั่วโมงที่มีแนวร่องอันโดดเด่นของรูปแบบ Evolution 9 Style (เอโวลูชั่น ไนน์ สไตล์) ช่วยให้อ่านค่าได้อย่างชัดเจนเป็นที่สุด เข็มจับเวลาวินาทีโค้งตัวอย่างนุ่มนวลลงไปสู่หน้าปัดเพื่อให้ปลายเข็มเข้าใกล้กับหลักบอกเวลาบนหน้าปัดมากที่สุด ทั้งยังมีความยาวไปจนถึงหลักบอกเวลาที่อยู่บริเวณส่วนริมสุดของหน้าปัด และเข็มนาที ก็โค้งตัวลงอย่างนุ่มนวลเพื่อให้อ่านค่าเวลาของวันได้อย่างชัดเจน.

วงขอบตัวเรือนทำขึ้นจากเซรามิก เพื่อปกป้องนาฬิกา จากการขีดข่วนและเพิ่มความทนทาน
เข็มและหลักชั่วโมงถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงลูมิไบรท์ เพื่อให้สามารถอ่านค่าในเวลากลางคืนได้

ตัวเรือนและสายทำขึ้นจากไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูง ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าและต้านทานต่อการขีดข่วนได้มากกว่าสเตนเลสสตีลถึง 30% เพื่อให้มีความทนทานสูงสุด และปุ่มกดทรงโค้งทั้งสองก็ช่วยให้การกดใช้งานฟังก์ชั่นจับเวลากระทำได้อย่างมั่นใจในระดับสูงสุด

รูปทรงที่โค้งมน ขาสายที่กว้าง และจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของนาฬิกา มอบความสบายสูงสุดบนข้อมือ
รูปทรงที่โค้งมน ขาสายที่กว้าง และจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำของนาฬิกา

หน้าปัดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขาอิวาเตะ

พื้นผิวอันประณีตของหน้าปัด หลักชั่วโมงที่โดดเด่น และวงหน้าปัดย่อยอยู่ในระนาบลึกลงไป เพิ่มความลึกและความ ชัดเจนให้กับดีไซน์การออกแบบ

หน้าปัดมาใน “รูปแบบภูเขาอิวาเตะ” อันเป็นรูปแบบเฉพาะตัวของ Grand Seiko ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก แนวสันเขาของภูเขาในอาณาบริเวณใกล้เคียงที่มองเห็นได้ผ่านหน้าต่างของสตูดิโอ แกรนด์ ไซโก ชิสุกุอิชิ ที่ซึ่ง นาฬิกา Tentagraph และนาฬิกาจักรกลรุ่นอื่น ๆ ทั้งหมดของ Grand Seiko ถูกประกอบขึ้น และทำการปรับแต่งด้วยมือ หน้าปัดแบบภูเขาอิวาเตะ ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 2006 จากนั้นเป็นต้นมา รูปแบบเช่นนี้ก็มีความเกี่ยวเนื่องอย่างลึกซึ้ง กับการประดิษฐ์นาฬิกาจักรกลของ Grand Seiko จุดตระหง่านสูงสุดแห่งขุนเขาเป็นแรงบันดาลใจที่ยั่งยืนให้กับ Grand Seiko และการเลือกใช้หน้าปัดรูปแบบนี้กับนาฬิกากลไกโครโนกราฟจักรกลแบบแรกของแบรนด์ก็เป็นทั้งการแสดงสัญลักษณ์และเป็นรูปแบบที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง เมื่อผสานรวมเข้ากับเฉดสีน้ำเงินอันแสนละเมียดแล้ว หน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้จะนำพาให้จินตนาการถึงท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือภูเขาอิวาเตะ

Grand Seiko Tentagraph จะร่วมอยู่ในคอลเลกชั่น Evolution 9 และจะวางจำหน่ายที่ แกรนด์ ไซโก บูติก และผู้แทนจำหน่ายบางแห่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 เป็นต้นไป

SLGC001

Grand Seiko Evolution 9 Collection Tentagraph: SLGC001

คาลิเบอร์ 9SC5
ระบบขับเคลื่อน: อัตโนมัติ
ความถี่: 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง (10 บีท ต่อวินาที)
ความแม่นยำ (อัตราเฉลี่ยรายวัน): +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน
พลังงานสำรอง: 72 ชั่วโมง
ค่าจับเวลา แสดงด้วยหน้าปัด 30 นาทีที่ 9 นาฬิกา และ 12 ชั่วโมงที่ 6 นาฬิกา
จำนวนทับทิม: 60
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง: 33.0 มม. ความหนา: 8.0 มม.

รายละเอียดทางเทคนิค

ตัวเรือนและสายไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูง
กระจกแซพไฟร์ คริสตัล ทรงกล่อง พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อน
ฝาหลังแบบเกลียว กรุกระจกใส เม็ดมะยมชนิดขันเกลียว
การกันน้ำ: 10 บาร์
ความต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 43.2 มม.; ความหนา: 15.3 มม.
ตัวล็อกแบบบานพับ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกด
ราคาจำหน่าย 557,500 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.grand-seiko.com/global-en/collections/slgc001g
หมายเหตุ: รายละเอียดทางเทคนิคและข้อมูลราคาในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้ เป็นข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้