Grand Seiko ขอแนะนำผลงานเอกชิ้นใหม่ของนาฬิกาสปริงไดรฟ์ แบบไขลาน จากสตูดิโอ ไมโคร อาร์ติสต์ ซึ่งใช้ตัวเรือนที่ได้รับการสลักตกแต่งอย่างสมบูรณ์แบบทั่วทุกอณูโดยเป็นการสลักด้วยมือทีละเรือน นาฬิกาผลิตจำนวนจำกัดรุ่นล่าสุดนี้ สร้างสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากป่า แลมาตรฐานระดับสูงสุดที่ Grand Seiko กำหนดไว้ในการสร้างผลงานชิ้นเอกนี้

ณ เชิงเขาตอนเหนือของภูเขายัตสึกะทาเคะ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของชินชู มีอาณาบริเวณป่าต้นเบิร์ชสีขาวที่กว้างใหญ่ และในเมืองชิโอจิริ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ นั้น เหล่าช่างฝีมือชั้นยอดทั้งบุรุษและสตรี ได้กระทำการผลิตนาฬิกา Grand Seiko ขึ้นด้วยมือ และหลายรุ่นก็ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากสถานที่และฤดูกาลในท้องถิ่นแห่งนี้ ผลงานเอกชิ้นล่าสุดของพวกเขาก็คือ นาฬิกาตัวเรือนแพลทินัม 950 ที่สลักตกแต่งด้วยมืออย่างพิถีพิถันด้วยลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากป่าต้นเบิร์ชสีขาวซึ่งปรากฎให้เห็นในฤดูหนาวในช่วงเวลาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะที่เพิ่งโปรยปรายลงมาใหม่ ๆ

ป่าต้นเบิร์ชสีขาวอันงดงามตระการตา ปรากฏอยู่ในทุกรายละเอียด

พื้นผิวของหน้าปัดจับแสงและสร้างรูปลักษณ์ที่ละเอียดอ่อนและงดงาม

สีเงินของทั้งหน้าปัดและตัวเรือนแพลทินัม 950 แสดงถึงความงามตามธรรมชาติของผืนป่าแห่งนี้ นาฬิกาที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยนักประดิษฐ์นาฬิกา ช่างแกะสลัก และช่างฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญรุ่นนี้ เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากชุดกระบวนการที่พิถีพิถันซึ่งถูกกระทำขึ้นแบบอินเฮาส์ ภายในองค์กรเองทั้งหมด โดยเริ่มจากการขัดเงาเพื่อสร้างพื้นผิวดุจกระจกที่ปราศจากการบิดเบือนของภาพสะท้อนด้วยกรรมวิธีซารัตสึ จากนั้นตัวเรือนแต่ละชิ้นก็จะถูกสลักตกแต่งด้วยมืออย่างพิถีพิถันให้เกิดร่องยาวแต่ละแนวขึ้นโดยช่างแกะสลักทักษะสูงแห่งสตูดิโอนาฬิกาชินชู ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาบริเวณโรงงานเดียวกันกับสตูดิโอ ไมโคร อาร์ติสต์ ร่องแต่ละร่องจะทำให้เกิดลักษณะทะเลแห่งเหล่าต้นเบิร์ชสีขาวขึ้นมาในรูปแบบที่คล้ายกับลายบนหน้าปัดอย่างกลมกลืนและต่อเนื่อง

หน้าปัดมากับรูปแบบต้นเบิร์ชสีขาวแห่งชินชู อันเลื่องชื่อ ที่เหล่าแฟน ๆ ของ Grand Seiko คุ้นเคยกันดี หากแต่หน้าปัดของผลงานชิ้นเอกรุ่นนี้มีโทนสีที่ต่างออกไปเล็กน้อยและมีพื้นผิวที่ดูมีความเป็นโลหะมากขึ้น ทำให้เกิดประกายอย่างละเอียดเมื่ออยู่ภายใต้แสง

รูปทรงที่เพรียวบางทำให้นาฬิการุ่นนี้มอบความสบายและความสง่างามแก่ข้อมือ

เข็มชั่วโมงและเข็มนาที รวมถึงชิ้นหลักชั่วโมงที่ตัดเจียรดุจเพชรซึ่งติดตั้งลงบนหน้าปัดด้วยมือ ถูกทำขึ้นจากทองขาว 14K เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีลักษณะที่เฉียบคมและแวววาว ในขณะที่สเกลนาที กับตัวอักษรและเครื่องหมายที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เป็นการสลักลงบนหน้าปัด เข็มวินาทีถูกให้ความร้อนเพื่อให้เกิดสี แต่แทนที่จะทำให้เป็นสีน้ำเงินตามธรรมเนียมปฏิบัติปกติ กลับทำให้เป็นเฉดสีเทาที่ดูกลมกลืนกับหน้าปัดแทน เข็มวินาทีจะเหินเคลื่อนผ่านลายผิวอันงดงามบนหน้าปัดเพื่อสะท้อนลักษณะการไหลผ่านตามธรรมชาติของเวลา

เครื่องหมายรูปดาวที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา แสดงถึงการใช้หลักชั่วโมงที่เป็นทองคำแท้ อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของ Grand Seiko มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960s
เข็มนาทีและเข็มวินาทีถูกขึ้นรูปด้วยมือให้โค้งอย่างนุ่มนวลลงไปยังสเกลนาที เพื่อให้อ่านค่าได้ชัดเจน

แน่นอนว่าการเหินเคลื่อนอันราบรื่นของเข็มเช่นนี้ เกิดขึ้นได้จากกลไกสปริงไดรฟ์ แบบไขลาน คาลิเบอร์ 9R02 ที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ความโดดเด่นของพลังงานสำรองที่กระทำได้ถึง 84 ชั่วโมง เป็นผลมาจากการใช้ตลับลานแบบดูอัล สปริง บาร์เรล ซึ่งมีสปริงลาน 2 ชุด ติดตั้งขนานกันอยู่ภายในตลับลานชิ้นเดียว และระบบทอร์ค รีเทิร์น ซิสเต็ม* ความแม่นยำถึงระดับ 1 วินาทีต่อวันของกลไกสปริงไดรฟ์ ที่ประกอบขึ้นด้วยมือคาลิเบอร์นี้ เป็นตัวอย่างของความประณีตและคุณภาพแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาของ Grand Seiko

*ระบบทอร์ค รีเทิร์น ซิสเต็ม: เมื่อสปริงลานถูกขึ้นลานจนเต็มและแรงบิดขาออกอยู่ที่ระดับสูงสุดแล้ว ประมาณ 30% ของพลังงานที่มีอยู่จะไม่มีความจำเป็นต่อการรักษาความแม่นยำของนาฬิกา ซึ่งในรูปแบบกลไกแบบปกติจะเป็นการสูญเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ ระบบทอร์ค รีเทิร์น ซิสเต็ม เป็นการใช้พลังงานนี้ขึ้นลานสปริงลานกลับเข้าไปเพื่อเพิ่มพลังงานสำรอง

เช่นเดียวกับตัวเรือนและหน้าปัด คาลิเบอร์ 9R02 ได้เผยให้เห็นมรดกที่สืบทอดต่อกันมาในรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ตลับลานของกลไกที่ได้รับการตกแต่งให้สะท้อนถึงลักษณะของดอกระฆัง อันเป็นสัญลักษณ์ของชิโอจิริ และสะพานจักรตกแต่งด้วยมือ 2 ชิ้นซึ่งมีส่วนขอบที่ได้รับการขัดเงาเพื่อให้เกิดลักษณะความเปรียบต่างอย่างมากกับการตกแต่งแบบแฮร์ไลน์ที่เป็นเส้นละเอียดบนพื้นผิวส่วนอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงงานฝีมืออันประณีตซึ่งเป็นจุดเด่นของสตูดิโอ ไมโคร อาร์ติสต์ แผ่นป้ายทอง 18K ที่ติดตั้งอยู่บนสะพานจักรชิ้นล่างถูกสลักข้อความ “Micro Artist” เอาไว้ แต่สามารถปรับเปลี่ยนข้อความบนแผ่นป้ายนี้ได้ หากเจ้าของนาฬิกาต้องการ

นาฬิการุ่นนี้เป็นลำดับที่สามของผลงานนาฬิกาสปริงไดรฟ์ แบบไขลานรุ่นพิเศษที่ได้รับการสลักตกแต่งอย่างสมบูรณ์แบบ และจะวางจำหน่ายในฐานะงานผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนที่ แกรนด์ ไซโก บูติก ในเดือนมิถุนายน 2023

Grand Seiko Tentagraph จะร่วมอยู่ในคอลเลกชั่น Evolution 9 และจะวางจำหน่ายที่ แกรนด์ ไซโก บูติก และผู้แทนจำหน่ายบางแห่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 เป็นต้นไป

เกี่ยวกับสตูดิโอ ไมโคร อาร์ติสต์

สตูดิโอ ไมโคร อาร์ติสต์ เป็นสตูดิโอผลิตนาฬิการะดับหรูในชิโอจิริ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคชินชู อันเป็นสถานที่ในการสร้างซีรีส์นาฬิกาสปริงไดรฟ์ ชุดพิเศษที่รวมเทคโนโลยีนาฬิกาที่ดีที่สุดเข้ากับงานฝีมือในระดับสูงสุด สตูดิโอแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อ “เปิดเผย ตรวจสอบ และฝึกฝนบรรดาเทคโนโลยีและทักษะต่าง ๆ ในการผลิตนาฬิการะดับหรูที่สืบทอดมาจากอดีต” คณะทำงานประกอบด้วยช่างฝีมือทั้งบุรุษและสตรี ซึ่งแต่ละท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาของตน เช่น การออกแบบกลไก การประกอบกลไก และการตกแต่งกลไก

SBGZ009

Grand Seiko Masterpiece Collection Hand-engraved Manual-winding Spring Drive Limited Edition: SBGZ009

คาลิเบอร์ 9R02
ระบบขับเคลื่อน: ไขลาน
พลังงานสำรอง: 84 ชั่วโมง
ความแม่นยำ: ±1 วินาทีต่อวัน (±15 วินาทีต่อเดือน)
ตลับลานแบบดูอัล สปริง บาร์เรล และระบบทอร์ค รีเทิร์น ซิสเต็ม
มาตรแสดงพลังงานสำรอง
จำนวนทับทิม: 39

รายละเอียดทางเทคนิค

ตัวเรือนแพลทินัม 950
กระจกแซพไฟร์ คริสตัล ชนิดผิวโค้งทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อน
ฝาหลังกรุกระจกใส
การกันน้ำ: 3 บาร์
ความต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 38.5 มม.; ความหนา: 9.8 มม.
สายหนังจระเข้พร้อมตัวล็อกแบบบานพับ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกด
ตัวล็อกแพลทินัม 950 (บางส่วนเป็นทองขาว 18K)
ผลิตจำนวนจำกัด 50 เรือน
ราคาจำหน่ายในไทย: 2,863,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.grand-seiko.com/global-en/collections/SBGZ009J
หมายเหตุ: รายละเอียดทางเทคนิคและข้อมูลราคาในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้ เป็นข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้