แรงบันดาลใจจากหิมะในฤดูหนาว สู่ 3 เรื่องราวที่ถ่ายทอดความงามของ Grand Seiko SBGA415 Taisetsu

แรงบันดาลใจจากหิมะในฤดูหนาว สู่ 3 เรื่องราวที่ถ่ายทอดความงามของ Grand Seiko SBGA415 Taisetsu

หน้าปัด

พื้นผิวบนหน้าปัดสีเทาอ่อนเรือนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากสีของบรรยากาศยามเช้าของฤดูหนาว โดยในช่วง Taisetsu (ไทเซ็ทสึ) นี้จะเป็นช่วงเวลาที่หิมะ ตกหนักที่สุดของปี หรือ ช่วง peak ของฤดูหนาว มีลายสวยเป็นเอกลักษณ์  คล้ายกับ SBGE271 Kanro  แต่ถูกนำเสนอธรรมชาติในมุมมองที่แตกต่างออกไป ส่วนลายละเอียดบนหน้าปัดคงความสวยงามตามแบบฉบับ Grand Seiko Style

โลโก้ของแบรนด์อยู่ใต้ 12 นาฬิกา โดยมีสัญลักษณ์ GS ที่เป็นเลเยอร์สีทองนูนออกมา มีมิติ สวยงาม
โลโก้ของแบรนด์อยู่ใต้ 12 นาฬิกา โดยมีสัญลักษณ์ GS ที่เป็นเลเยอร์สีทองนูนออกมา มีมิติ สวยงาม
กรอบวันที่ ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ได้รับการขัดเงาพิเศษ เช่นเดียวกับตำแหน่งอื่น ๆ
เข็ม และ markers ถูกขัดแต่งสวยงาม ส่วนเข็มวินาที blue steel ผ่านกระบวนการ heat treatment
เข็ม และ markers ถูกขัดแต่งสวยงาม ส่วนเข็มวินาที blue steel ผ่านกระบวนการ heat treatment
การอ่านค่าชัดเจนแม้อยู่ในที่แสงน้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องมีของนาฬิกา Grand Seiko ทุกเรือน
การอ่านค่าชัดเจนแม้อยู่ในที่แสงน้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องมีของนาฬิกา Grand Seiko ทุกเรือน
เคส

เป็นการนำตัวเรือน 62GS ที่เป็นกลไก automatic แบบแรกของ GS ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1967 มาใช้ในการออกแบบ โดยตัวเรือนทรงโค้งขัดเงาแวววาวไหลเชื่อมกับกระจกที่ผนึกเหนือหน้าปัด

ตำแหน่งของเม็ดมะยมได้ถูกจัดวางใหม่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เพื่อใช้งานได้ง่ายขึ้น ซึ่งเปลี่ยนจากตำแหน่ง 4 นาฬิกา เป็นการสื่อถึงนัยยะว่าการขึ้นลานด้วยเม็ดมะยมไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป

ตัวเรือนทำจากไทเทเนียมความหนาแน่นสูง ซึ่งมีน้ำหนักเบา ขนาด 40มม  ความหนา 12.8มม ข้อต่อตัวเรือนโค้งมนอย่างอ่อนช้อยให้วางนาฬิกาบนข้อมือได้อย่างสบายตามแบบฉบับของ 62GS รุ่นดั้งเดิม 

กลไก

นาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก Spring Drive คาลิเบอร์ 9R65 ความแม่นยำ  ±15 วินาทีต่อเดือน (โดยเฉลี่ย) (±1 วินาทีต่อวัน) สำรองพลังงาน ประมาณ 72 ชั่วโมง (3 วัน)

ตัวเรือนด้านหลังแบบมองทะลุได้ และประดับสัญลักษณ์รูปสิงโต
ตัวเรือนด้านหลังแบบมองทะลุได้ และประดับสัญลักษณ์รูปสิงโต
    Current :
  • TH
  • EN